อุบัติเหตุรถไฟฟ้าสีชมพู พบรางสเตนเลสจ่ายไฟ นอตหลุดยาวไปถึงแยกแคราย
ระดมทีมวิศวกร แก้ปัญหารางรถไฟฟ้าสายสีชมพู หลุดหล่นลงมาทับรถยนต์ บริเวณหน้าตลาดชลประทานปากเกร็ด และเกี่ยวสายไฟฟ้าทำเสาล้ม พบเป็นรางสเตนเลสสำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบ นอตหลุดร่วงหล่นเป็นแนวยาวประมาณ 3 กม. จนถึงแยกแคราย
จากอุบัติเหตุบริเวณใต้รางรถไฟฟ้าสายสีชมพู
หน้าตลาดชลประทาน ถนนติวานนท์ ฝั่งขาเข้า ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. ร.ต.อ.กิตตินันท์ อักษรสม รอง
สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด
รับแจ้งเหตุมีชิ้นส่วนอุปกรณ์ของระบบรางขนส่งรถไฟฟ้าสายสีชมพู
(แคราย-มีนบุรี)
ตกลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ใต้แนวเส้นทางของรถไฟฟ้าได้รับความเสียหาย
หน้าตลาดชลประทาน ถนนติวานนท์ ฝั่งขาเข้า ไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล
วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร
ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ฐาปนพงษ์ พึ่งมี สว.จร.สภ.ปากเกร็ด
ที่เกิดเหตุพบเป็นท่อนรางสเตนเลส
กว้าง 4 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ที่ใช้จ่ายกระแสไฟของระบบรถไฟฟ้าที่ยึดกับหมุด
ติดอยู่ด้านข้างผนังคอนกรีตของแนวเส้นทางการเดินรถพังลงมาเป็นแนวยาว
ซึ่งบางส่วนพังลงมาอยู่ด้านล่าง บางส่วนพาดอยู่บนตอม่อ
จุดเริ่มต้นจากบริเวณหน้าตลาดชลประทานต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณแยกแคราย
เป็นระยะทางราว 3 กม.
โดยจุดที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือจุดบริเวณหน้าตลาดชลประทาน
ท่อนรางได้พังถล่มลงมาทับรถยนต์ของพ่อค้าแม่ค้า
และรถยนต์ชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของที่จอดอยู่ใต้แนวรถไฟฟ้าได้รับความเสียหาย
จำนวน 3 คัน ประกอบด้วย รถปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไททัน สีดำทะเบียน บน
1984 อุทัยธานี รถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บว 4035
กาญจนบุรี และรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน 7 กฒ 712 กทม.
ที่ถูกท่อนรางทับพาดจนหลังคายุบถึงห้องโดยสาร
นอกจากนี้
ยังมีเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นอีก 1 ต้น
ตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแบริเออร์กั้นห้ามรถยนต์ผ่าน
เนื่องจากเป็นพื้นที่อันตราย
พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงและเจ้าหน้าที่ของบริษัท BTS
ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการของรถไฟฟ้า
สอบปากคำนายวัลลภ
ศรีกล่อม อายุ 21 ปี เจ้าของรถปิกอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน บน
1984 อุทัยธานี เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจอด
เห็นนอตหล่นลงมาก่อน จึงเงยหน้าขึ้นไปดู เห็นท่อนรางหลุดลงมาเป็นทางยาว
เกรงว่าจะได้รับอันตราย ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งเข้าไปในตลาด
หลังเหตุการณ์สงบออกมาดู พบว่าท่อนรางทับรถจนได้รับความเสียหาย
ต่อมา
เวลา 07.30 น. พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1,
เจ้าหน้าที่ของรถไฟฟ้า BTS, เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงนนทบุรี
ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในเบื้องต้นทีมแก้ไขสถานการณ์ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ COMMAND
POST ที่บริเวณทางเท้าหน้าตลาดชลประทาน มีการระดมรถเครนและทีมวิศวกร
และเจ้าหน้าการไฟฟ้านครหลวงเข้าดำเนินการแก้ไข
โดยเริ่มต้นจากการตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งผ่านรางแล้ว
อยู่ระหว่างดำเนินการใช้รถเครนยกรางเพื่อรื้อออก ซึ่งพบว่ารางมีน้ำหนักมาก
ต้องใช้รถเครนจำนวน 2 คัน
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการ พร้อมทั้งตรวจสอบด้านความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดูแลด้านความปลอดภัยแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาและจับจ่ายในตลาดสดกรมชลประทาน
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ท่อรางพังลงมานั้น
เบื้องต้นทางทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่ของบริษัท BTS
ยังไม่ได้สรุปถึงสาเหตุว่าเกิดจากสาเหตุใด รอการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้ง
{Fullwidth}