นาทีระทึก รางรถไฟฟ้าสายสีชมพูหลุดเกี่ยวสายไฟฟ้า เหวี่ยงฟาดรถพังยับ
ผู้เสียหายเหตุรางรถไฟฟ้าสายสีชมพูร่วงหล่นใส่รถ หน้ากรมชลประทาน ปากเกร็ด ทยอยเข้าแจ้งความ แต่ไร้วี่แววตัวแทนรถไฟฟ้าฯ มาดูแลรับผิดชอบ เผยนาทีระทึกร่วงลงมาฟาดรถที่จอด เหวี่ยงไปเกี่ยวสายไฟทำเสาไฟฟ้าล้ม เกิดไฟช็อตระเบิดเสียงดังสนั่น
จากเหตุการณ์เมื่อเวลา
05.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด
รับแจ้งเหตุเหล็กรางส่งกระแสไฟรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งระหว่าง แคราย-มีนบุรี
ร่วงหล่นลงมาใส่รถยนต์เสียหายหลายคัน
โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากนี้
รางรถยังได้เกี่ยวเข้ากับสายไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวจนเกิดการระเบิดขึ้น
ได้รับความเสียหายจนเสาเอียง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรด้านขวา 1
ช่องทาง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ปากเกร็ด
พบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากรางจ่ายกระแสไฟรถไฟฟ้าร่วงใส่รถยนต์
จนได้รับความเสียหายหลายคัน ทยอยเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายศุภพงศ์
อายุ 50 ปี เจ้าของร้านแอร์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า
ตอนเกิดเหตุตนกำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาดกรมชลประทาน
ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง จึงรีบเดินออกมาดู
ก็พบว่ารถของตนที่จอดอยู่ใต้แนวรางรถไฟฟ้าด้านเลนขวาสุด
ถูกรางของรถไฟฟ้าที่ร่วงลงมาทับ และสะบัดแกว่งไปมาอยู่ที่รถของตน
ซึ่งได้รับความเสียหายรอบคัน ทั้งกระจกมองข้างหัก หลังคารถบุบ
ตัวรถมีรอยบุบจากการถูกแรงกระแทกรอบคัน
แต่ยังโชคดีที่สามารถนำรถออกมาจากจุดเกิดเหตุได้
ส่วนรถอีกคันที่จอดอยู่ข้างหลังรถของตนถูกรางรถไฟฟ้าทับแทบจะขาดครึ่งคัน
ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และโชคดีที่ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในรถ
ไม่เช่นนั้นคงได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย
หลังเกิดเรื่องได้ขับรถเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
เพื่อให้รถไฟฟ้าสายสีชมพูมารับผิดชอบ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่
หรือตัวแทนของรถไฟฟ้าสายสีชมพู มาแสดงตัวแต่อย่างใด ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี อาชีพรับราชการ หนึ่งในผู้เสียหาย
เล่าให้ฟังว่าเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.
ตนขับรถมาส่งแม่และแฟนสาวที่ตลาดเพื่อซื้อของ โดยตนรออยู่ภายในรถ
สักพักก็ได้ยินเสียงดังมาก
ก่อนจะเห็นว่ารางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูร่วงลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างล่างด้านหน้ารถตนเป็นทางยาว
ซึ่งรถของตนก็โดนด้วย ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก รีบขับรถหนีตายออกมา
พอมองไปก็เห็นว่ารางของรถไฟฟ้ายังไปดึงสายไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวล้มตามลงมาด้วย
จนเกิดกระระเบิดขึ้นหลายครั้ง โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
มีเพียงรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายแทบจะทั้งคัน
จึงได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
หลังเกิดเรื่องยังไม่ได้รับการติดต่อ
หรือมีเจ้าหน้าที่ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู
เข้ามาดูแลรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
มีแต่ประกันรถยนต์ของตนเท่านั้น